“ปูดำ” เป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าสัตว์น้ำประ เภทอื่น
ปัจจุบันปูดำกำลังได้รับความนิยมในการบริโภคสูง
การจับปูดำจากธรรมชาติอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคทำ
ให้ราคาในท้องตลาดค่อนข้างสูงโดยเฉพาะปูไข่ ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ ประมาณ 250-350
บาท ฉะนั้น การที่ภาครัฐได้ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปูดำเพื่อทดแทนการจับจาก
ธรรมชาติจะเพียงพอต่อความต้องการของตลาดได้
และจะช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี
โดยล่าสุดทางกรมประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดปัตตานี ได้เล็งเห็น
ศักยภาพของราษฎรในพื้นที่ชุมชนบาลา ดูวอ หมู่ที่ 2 ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง
จังหวัดปัตตานี ในการเพาะขยายพันธุ์ปูดำ
จึงได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงปูดำในตะกร้าแก่เกษตรกรซึ่งดำเนินการมา ตั้งแต่
ปี 2550 จนถึงปัจจุบันมีการรวมกลุ่มโดยมีสมาชิกจำนวน 24 ราย
สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยให้แก่ชุมชนได้ประมาณ 7,000-10,000 บาทต่อเดือน
สำหรับการเลี้ยงปูดำ
ทางสำนักงานประมงจังหวัดปัตตานีแนะนำว่าควรเลือกทำเลที่เป็นบริเวณชายฝั่ง
หรือบริเวณปากแม่น้ำ ไม่มีคลื่นลมแรง กระแสน้ำไม่เชี่ยว ปลอดภัยจากภาวะมลพิษ
ส่วนการทำตะกร้าและการทำแพนั้น ตะกร้าที่ใช้จะเป็นตะกร้าพลาสติกมีขนาดประมาณ
40x60x15 เซนติเมตร สำหรับแพใช้ท่อพีวีซีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1-2 นิ้ว ปิดปลายทั้ง
2 ข้าง แล้วต่อให้เป็นแพยาวประมาณ 10-20 เมตร
ใช้ไม้วางพาดขวางยึดท่อให้มีระยะห่างพอดีรองรับกับตะกร้าที่ใช้บรรจุปู
ขนาดของตะกร้าที่ใช้บรรจุปูกว้างประมาณ 22 เซน ติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร สูงประมาณ
16 เซนติเมตร โดยการเลี้ยงจะใส่ปู 1 ตัวต่อ 1 ตะกร้า ขนาดลูกปูตั้งแต่ 6.0-7.5
เซนติเมตร สำหรับตะกร้าที่ใช้จะเป็นแบบ 2 ใบมาประกบกัน
เพื่อป้องกันแสงแดดและความร้อน ที่สำคัญคือป้อง กันไม่ให้ปูหนีออกจาก ตะกร้า
ทั้งนี้ตะกร้า ด้าน บนควรเจาะรูไว้สำหรับให้อาหารปูด้วย
โดยให้ปลาเป็ดที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาด 1-2 นิ้ว วันละ 1 ครั้ง
การเลี้ยงปูดำของชุมชนบาลาดูวอ เพื่อการจำหน่ายมี 3 แบบ คือ ปูนิ่ม ปูไข่
และปูเนื้อขนาดใหญ่ แต่ส่วนใหญ่ปูไข่จะเก็บไว้ เพื่อขยายพันธุ์ ซึ่งจะ
มีร้านอาหารในพื้นที่มารับซื้อทุกวัน โดยราคาปูนิ่ม
และปูไข่จะจำหน่ายประมาณกิโลกรัมละ 250 บาท ถ้าเป็นปูขนาด
รุ่นจัมโบ้จะจำหน่ายได้ราคามากหน่อย คือ กิโลกรัมละ 270-280 บาท
แต่ทางชุมชนจะเก็บปูนิ่มขายเป็นส่วนใหญ่ เพราะใช้ระยะเวลาเลี้ยงเร็ว ประมาณ 2
อาทิตย์ เมื่อปูลอกคราบก็สามารถเก็บจำหน่ายได้แล้ว ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นปูเนื้อ
หรือปูไข่ จะใช้ระยะเวลานานกว่า 1 เดือน
ขณะนี้ผลผลิตปูดำของชุมชนบาลาดูวอยังจำหน่าย ได้ปริมาณน้อย
เนื่องจากเพิ่งเริ่มดำเนินการได้ไม่นาน
ทำให้มีปูจำหน่ายไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า
ซึ่งขณะนี้ทางชุมชนกำลังเพิ่มปริมาณการเลี้ยงให้มากขึ้น
เกษตรกรท่านใดสนใจวิธีการเลี้ยงปูดำในตะกร้า
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดปัตตานี กรมประมง โทรศัพท์
0-7334-9591,0-7334-9892 ในวันและเวลาราชการ.
ที่มา : นสพ เดลินิวส์